ของขวัญ

วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

inFASH FORWARD Trends Spring/Summer 2011: การสัมมนาเทรนด์สีและวัสดุสำหรับสินค้าแฟชั่นและแต่งบ้าน

เวลา 22 กรกฎาคม 2552 | 13:00-17:00
สถานที่ ห้องออดิทอเรียม, TCDC

“เทรนด์ไหนจะมา” เป็นคำถามยอดนิยม ไม่ใช่แค่สำหรับแต่งตัวไม่ให้ตกเทรนด์ แต่เป็นข้อมูลสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวางแผนงานออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ อยู่ในความนิยมของลูกค้า

นักออกแบบและนักธุรกิจ ในอุตสาหกรรมสิ่งทอและตกแต่งบ้านจะได้เห็นและเข้าใจที่มาของเทรนด์ พร้อมข้อมูลเชิงลึกส่งตรงจากการประชุมเทรนด์สีโลก INTERCOLOR ในประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนมิถุนายน 2552 โดยสถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทย ตัวแทนหนึ่งเดียวของประเทศไทยในการประชุมเทรนด์สีโลก

พร้อมตอบ ข้อสงสัยที่ติดใจนักออกแบบและเจ้าของแบรนด์เสมอมา เทรนด์สีและแฟชั่นโลกที่มีการคาดการณ์กันมานานกว่า 50 ปีเกิดขึ้นได้อย่างไร มีกระบวนการวิจัยที่เป็นระบบหรือเป็นการสมรู้ร่วมคิดของนักออกแบบชั้นนำ

ร่วม ฟังการสัมมนาเทรนด์ล่วงหน้าฤดูกาล Spring/Summer 2011 พร้อมรับ Home Color Trends Book by inFASH & MFL Autumn/Winter 2010/11 เพื่อสร้างความแม่นยำในการออกแบบสินค้าของคุณ

หัวข้อและเนื้อหาการสัมมนา

  1. การบรรยายหัวข้อ “กว่าจะมาเป็นเทรนด์” (Trend Research: How and why, understand global trends research process and way to master the future information) โดย ผศ.ดร. อโนทัย ชลชาติภิญโญ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    เนื้อหาการบรรยาย: กระบวนการและวิธีวิจัยเทรนด์ ที่มาและความสำคัญของการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเทรนด์
  2. การบรรยายหัวข้อ Trend Confirmation Autumn/Winter 2010/11 โดย คุณอ้อยใจ เลิศล้ำ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
    เนื้อหาการบรรยาย: อัพเดทข้อมูลเทรนด์และการ reconfirm เทรนด์ฤดูกาล AW 2010/11 กับข้อมูลจาก trend service แหล่งอื่นๆ
  3. การบรรยายหัวข้อ Home Trends Autumn/Winter 2010 by inFASH & Mae Fah Luang Foundation” โดย คุณสสิทธิ์ ชมไพศาล มูลนิธิแม่ฟ้าหลวงในพระบรมราชูปภัมภ์
    เนื้อหาการบรรยาย: เทรนด์สำหรับวัสดุและสินค้าแต่งบ้าน (Home products) เช่น home textiles, furniture, home decorations, surface and material design
  4. การบรรยายหัวข้อ inFASH Fashion Forward Trends Spring/Summer 2011” โดย คุณประดิษฐ์ รัตนวิจิตราศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทย

    เนื้อหาการบรรยาย: Early Trend ฤดูกาล SS 2011 สำหรับนักออกแบบและผู้ประกอบการสิ่งทอและแฟชั่น

ค่าสัมมนา: ท่านละ 1,200 บาท (พร้อมรับเอกสารเทรนด์ Home Color and Material Trends Book 1 ฉบับ และ Fashion Color and Material Trends Information 1 ฉบับ)

ส่วนลดสำหรับสมาชิก TCDC (เฉพาะสมาชิกภาพที่ยังไม่หมดอายุ):

  • สมาชิกพรีเมียม รับส่วนลด 10%
  • สมาชิกพรีเมียมแบบ Corporate รับส่วนลด 15%
  • สมาชิกซิลเวอร์และแพลตินัม รับส่วนลด 20%

ส่วนลดสำหรับสมาชิก inFASH: 15%

การสมัครและสำรองที่นั่งงานสัมมนา

  1. สอบถามข้อมูลและสำรองที่นั่ง:
    คุณจีรวัฒน์ ตั้งใจเพียร สถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทย
    โทร 0 2286 9600 หรือ 080 5533241
  2. จ่ายค่าสัมมนาโดยโอนเงินไปที่:
    บัญชีเงินทุนสมทบสถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทย
    ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาย่อย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
    เลขที่บัญชี 544-1-01916-0
    และแฟกซ์ใบ Pay-in มาที่ สถาบันวิจัยแฟชั่นแห่งประเทศไทย โทรสาร 0 2286 9600
    หรืออีเมล์สำเนาการจ่ายเงินมาที่ infash.rmutk@gmail.com โดยระบุรายละเอียดดังนี้


ชำระเงินค่าสัมมนา inFASH Forward Trends Spring/Summer 2011 จำนวน...........บาท วันที่ชำระเงิน..........
ชื่อ นาย/นาง/นางสาว........................................นามสกุล..............................................
บริษัท................................................................ ที่อยู่.....................................................
โทรศัพท์ ........................................................................................................................
ออกใบเสร็จรับเงินในนาม................................. ที่อยู่....................................................

หมายเหตุ

  1. การบรรยายเหมาะสำหรับนักออกแบบ ผู้ประกอบการธุรกิจสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่มและแฟชั่น
  2. บรรยายเป็นภาษาไทยเท่านั้น

Eco Textiles สิ่งทอรักโลก(การบรรยาย)


เวลา 15 กรกฎาคม 2552 | 14:00-16:30
สถานที่ ห้องออดิทอเรียม, TCDC


โดย ปิลันธน์ ธรรมมงคล
กรรมการผู้จัดการ บริษัท กรีนวิล เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ประกอบการผลิตผ้าไหมที่ได้รับฉลากสิ่งแวดล้อม “EU-Flower” ของสหภาพยุโรปรายแรกของโลก

ดร.ชาญชัย สิริเกษมเลิศ
ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมเทคโนโลยี สถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ

ประเทศ ไทยเป็นประเทศแรกในโลกที่ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมและสิ่งทอได้รับโลโก้ “EU Flower” ซึ่งเป็นฉลากที่สหภาพยุโรปออกให้กับผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในแง่การออกแบบ การผลิต และการตลาด รวมไปถึงการใช้งาน

มา ร่วมเรียนรู้กันว่า การทอผ้าไหมโดยนำแนวคิด Ecology มารวมเข้ากับ Textile สามารถสร้างสรรค์สิ่งทอรักโลก (Eco-fabrics) ขึ้นได้อย่างไร การพัฒนาผ้าผืน Eco Novelty Fabrics Development ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค มีองค์ประกอบอะไรบ้าง? และผลิตภัณฑ์ประเภทไหนถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม? Green, Environmentally-friendly หรือ Eco-fabrics ในประเทศไทยทำได้จริงหรือ? จากมุมมองของผู้บริโภคและนักออกแบบ ควรเลือกวัสดุและกระบวนการพัฒนาผ้าผืน “ผลิตภัณฑ์สีเขียว” นี้อย่างไร? การเจาะลึกสิ่งทอสีเขียวในแง่มุมไหน จะช่วยอุตสาหกรรมของเราเดินไปสู่การเปลี่ยนโลกใบนี้ให้น่าอยู่ นอกจากนี้มาร่วมรับทราบข้อมูลล่าสุดจากการวิจัยและพัฒนาสิ่งทอโดยสถาบัน พัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ

กำหนดการ:


13:00 – 14:00 ลงทะเบียน
14:00 – 14:45 “Eco-fabrics สิ่งทอรักโลก” โดย ปิลันธน์ ธรรมมงคล
14:45 – 16:15 “นวัตกรรมสิ่งทอสีเขียวโดยสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ” โดย ดร. ชาญชัย สิริเกษมเลิศ
15:45 – 16:30 ถามและตอบ

ไม่เสียค่าใช้จ่าย
สำรองที่นั่งได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ TCDC โทร. 02 664 8448 ต่อ 213, 214

หมายเหตุ

  1. กรุณาสำรองที่นั่งล่วงหน้าทางโทรศัพท์
  2. เริ่ม เปิดลงทะเบียนหน้างานก่อนงานเริ่ม 1 ชั่วโมง ผู้ที่สำรองที่นั่งล่วงหน้า โปรดมาลงทะเบียนยืนยันการเข้าร่วมงานก่อนงานเริ่มอย่างน้อย 30 นาที
  3. การบรรยายเหมาะสำหรับนักศึกษา นักออกแบบ ผู้ประกอบการ และผู้ที่สนใจการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์สิ่งทอเพื่อสิ่งแวดล้อม (ทั้งสมาชิก TCDC และบุคคลทั่วไป)
  4. บรรยายเป็นภาษาไทยเท่านั้น
  5. ค่าจอดรถเป็นไปตามระเบียบของห้างเอ็มโพเรียม TCDC จะมีคูปองให้ฟรี 2 ชม.

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ทำไมต้อง Creative Economy

เมื่อเครื่องยนต์ตัวเก่าไม่ทำงาน เป็นเรื่องปกติที่ต้องหาเครื่องยนต์ใหม่เข้ามาเสริมประสิทธิภาพการขับ เคลื่อนประเทศ แต่เดิมที่เรายืนอยู่บนฐานของการส่งออก โดยเฉพาะการส่งออกสินค้าที่ไร้ความแตกต่างกับหลายประเทศ ทำให้ได้รับส่วนต่างที่ต่ำและรับค่าแรงราคาถูก หากเราพึ่งพาเครื่องยนต์ตัวเดิม เราจะมีทางออกอย่างไร เมื่อไตรมาสแรกของปี 2552 อัตราการขยายตัวของมูลค่าสินค้าส่งออกติดลบ 20.5% ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าและบริการติดลบ 33.2% สัดส่วนการใช้กำลังการผลิตลดต่ำมาอยู่ที่ประมาณ 58% เช่นเดียวกับตัวเลขการท่องเที่ยวของประเทศที่ติดลบมาตั้งแต่เดือนตุลาคมปี ที่แล้ว

ตัวเลขดังกล่าวคงจะเป็นฝันร้ายที่เคยชินของคนไทย หากเราไม่มองหาเครื่องยนต์ตัวใหม่ที่มีประสิทธิภาพเข้ามาทดแทน หรือทำงานควบคู่ไปกับเครื่องยนต์ตัวเดิม และสิ่งที่เรามองหาก็ไม่ต่างไปจากสิ่งที่ประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศมองหา นั่นคือ การพัฒนาระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) ปัจจุบันหลายประเทศได้ศึกษาและพัฒนาระบบเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างจริงจัง เช่น ในอังกฤษที่รัฐบาลได้ประกาศแผนพัฒนาในปี 2544 และจัดตั้งองค์กรซึ่งทำหน้าที่เชื่อมโยงอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์ให้ สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีศักยภาพ แม้แต่เกาหลีก็ได้ให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้ใหม่จากความคิดสร้างสรรค์ จนปัจจุบันการแพร่หลายของวัฒนธรรมเกาหลีกลายเป็นที่มาของรายได้จากการท่อง เที่ยว อาหาร แฟชั่น ดนตรี และภาพยนตร์

ระบบเศรษฐกิจสร้าง สรรค์ คือ กลุ่มอุตสาหกรรมที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์เป็นหลักในการผลิตสินค้าและบริการ ซึ่งในประเทศไทย หมายถึง งานฝีมือและหัตถกรรม งานออกแบบ แฟชั่น ภาพยนตร์ กระจายเสียง ศิลปะการแสดง โฆษณา การพิมพ์ และสถาปัตยกรรม โดยจากข้อมูลของสำนักบัญชีประชาติ เฉพาะมูลค่าของเศรษฐกิจทั้ง 9 กลุ่มนี้ คิดเป็นสัดส่วน 10.83% ของ GDP ในปี 2549 และมีมูลค่าส่งออกถึง 289,000 ล้านบาท ซึ่งเมื่อพิจารณาจากตัวเลขดังกล่าว การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยย่อมเป็นทางออกในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกใน ปัจจุบัน และเป็นที่แน่ชัดว่า การพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ต้องได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจึงจะก่อให้ เกิดการผลักดันในวงกว้าง ซึ่งจากมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจระยะที่ 2 การที่รัฐบาลประกาศส่งเสริมแผนพัฒนาศักยภาพของเศรษฐกิจสร้างสรรค์จำนวน 20,134 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 3 ปี ตั้งแต่ ปี 2553-2555 จึงเป็นเสมือนหลักประกันของการสนับสนุนเครื่องยนต์ตัวใหม่ให้ขับเคลื่อนได้

ทั้งนี้สังคมที่จะประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจสร้าง สรรค์จะต้องมีองค์ประกอบ 3 ประการ ได้แก่ 1) ทักษะและความสามารถในความเป็นช่างฝีมือ (talent) ที่รู้ลึกในเรื่องนั้น และพร้อมที่จะต่อยอดไปทำในเรื่องอื่นๆ 2) ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และการเป็นสังคมเปิด (tolerance) ที่คนในสังคมยอมรับในความแตกต่างทางความคิด เชื้อชาติ ศาสนา และเพศ และ 3) โครงสร้างพื้นฐาน (basic requirement ) ของสังคมที่เอื้ออำนวยด้านการศึกษา เทคโนโลยีการสื่อสาร ระบบลอจิสติกส์ ระบบการเงิน ระบบการผลิตที่มีคุณภาพและสุขอนามัย และระบบการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งจากคุณลักษณะของสังคมไทยเมื่อประกอบกับโครงสร้างพื้นฐานที่เอื้ออำนวย ย่อมเป็นฐานสำคัญที่ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ สินค้าและบริการที่จะเกิดขึ้น หรือเข้าไปแก้ปัญหาในกระบวนการผลิตแบบเดิม

ตัวอย่าง ที่จับต้องเป็นมูลค่าทางธุรกิจได้อย่างชัดเจนก็คือ เว็บไซต์ youtube ซึ่งมีมูลค่าการซื้อขายเว็บไซต์ล่าสุดเมื่อตุลาคม 2549 ในราคา 1.65 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งที่ใช้เวลาเพียง 5 ปีนับจากเริ่มต้นธุรกิจ ทั้งนี้เพราะสินทรัพย์ที่แท้จริงของ youtube ไม่ใช่โครงสร้างพื้นฐานด้านต่างๆ ของเว็บ แต่คือเนื้อหาของวิดีโอที่สมาชิกแต่ละคนนำมาบรรจุไว้ ทำให้ผู้คนจากทั่วโลกที่สนใจสามารถเข้าไปค้นหาได้ตามความต้องการของตนเอง ดังนั้น สินทรัพย์ของ youtube จึงเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้ แต่เกิดจากการบริหารเรื่องราวของความคิดสร้างสรรค์จากความต้องการของผู้คน ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตไป

ขณะเดียวกันการสร้างสินค้าและบริการ ใหม่ๆ ที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์มองหาโอกาสต่อยอดให้กับสินค้าเดิมก็เกิดขึ้นเป็น จำนวนมาก เพื่อตอบสนองความต้องการสินค้าและบริการที่ซับซ้อนขึ้นของผู้บริโภค เช่น น้ำดื่มแทสมาเนียน เรน (Tasmanian Rain) น้ำดื่มระดับพรีเมียมซึ่งหาซื้อไม่ได้ทั่วไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ในการ ดำเนินธุรกิจของผู้ผลิตที่ต้องการสร้างสินค้าที่แตกต่าง จึงได้ศึกษาสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของเกาะแทสมาเนียมจากข้อมูลของ องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (World Meteorological Organization) ที่ทำการทดสอบคุณภาพอากาศและจัดอันดับให้เกาะแทสมาเนีย ทางตอนใต้ของออสเตรเลียเป็นสถานที่ที่มีอากาศสะอาดบริสุทธิ์ที่สุดในโลก เนื่องจากมีประชากรและจำนวนอุตสาหกรรมน้อย ที่สำคัญลมที่พัดอยู่เหนือเกาะแทสมาเนียฝั่งตะวันตกยังเป็นลมจากทวีปแอนตาร์ กติกาที่ปราศจากผู้คนและพัดผ่าน 3 มหาสมุทรคิดเป็นระยะทางกว่าหมื่นไมล์ ดังนั้น ลมที่ก่อให้เกิดน้ำฝนจึงปราศจากสารปนเปื้อนใดๆ ดังนั้น ผู้ผลิตจึงคิดตั้งโรงงานโดยออกแบบอาคารดักน้ำฝนกลางอากาศก่อนนำไปเก็บพักไว้ ในแท็งก์เก็บน้ำฝน เพื่อรอการทดสอบคุณภาพก่อนบรรจุลงในขวดแก้ว ปัจจุบันราคาขายของขวดบรรจุ 750 ml. อยู่ที่ราว 200 บาท และมีเสิร์ฟเฉพาะในโรงแรมริทซ์-คาร์ลตัน เดอะ ทรัมป์ อินเตอร์เนชั่นแนล และโฟร์ซีซันส์ เท่านั้น

ทั้งสองตัวอย่างคือเรื่องราวการบริหาร ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสร้างสินค้าและบริการใหม่ๆ ในโลกปัจจุบัน เราเชื่อว่า ประเทศไทยมีผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ และเรามีนักคิด นักออกแบบ นักประดิษฐ์ที่เต็มไปโดยความคิดสร้างสรรค์และพร้อมจะแปรความคิด ความรู้ และความเชี่ยวชาญให้เกิดเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ หากเป็นเช่นนั้นแล้ว ประเทศไทยก็สามารถก้าวพ้นจากฝันร้ายทางเศรษฐกิจได้อย่างมีความหวังต่อไป

เรียบ เรียงจาก: การบรรยายของนายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ในการบรรยายพิเศษเรื่อง “Tale of the Trends 2009” วันที่ 26 มีนาคม 2552